บันทึกการเรียนครั้งที่ 4
วันอังคาร ที่ 26 พฤศจิกายน 2556
อาจารย์อธิบายเนื้อหาต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว
6. เด็กที่มีความบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์
-เด็กที่มีการควบคุมอารมณ์ให้อยู่ในสภาพปกตินานๆไม่ได้ (กลุ่มนี้น่ากลัว)
-เด็กที่ควบคุมพฤติกรรมของตยเองไม่ได้
-ทำให้ไม่สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างเรียบร้อย
แบ่งได้ 2 ประเภท
-เด็กที่ได้รับความกระทบกระเทือนทางอารมณ์
-เด็กที่ปรับตัวเข้ากับสังคมไม่ได้
เด็กที่ปรับตัวเข้ากับสังคมไม่ได้มักมีพฤติกรรมที่เห็นได้ชัดคือ
-วิตกกังวล
-หนีสังคม
-ก้าวร้าว
การจะวัดว่าเด็กมีความบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์ต้องคำนึงถึงองค์ประกอบดังนี้
-สภาพแวดล้อม
-ความคิดเห็นของแต่ละบุคคล
ผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อเด็ก
-ไม่สามารถเรียนหนังสือได้เช่นเด็กปกติ
-รักษาความสัมพันธ์กับเพื่อนหรือกับครูไม่ได้
-มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเมื่อเทียบกับเด็กในวัยเดียวกัน
-มีความคับข้องใจและมีความเก็บกดอารมณ์
-แสดงอาการทางร่างกาย เช่น ปวดศีรษะ ปวดตามส่วนต่างๆของร่างกาย
-มีความหวาดกลัว
เด็กที่มีความบกพร่องทางพฤติกรรม ซึ่งจัดว่ามีความรุนแรงมาก
-เด็กสมาธิสั้น
-เด็กออทิสติก
เด็กสมาธิสั้น
-เรียกย่อๆว่า ADHD
-เด็กที่ซนอยู่ไม่นิ่ง ซนมากผิดปกติ เคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา
-เด็กบางคนมีปัยหาเรื่องสมาธิบกพร่อง อาการหุนหันพลันแล่นขาดความยับยั้งชั่งใจ เด็กหเล่านี้ทางการแพทย์จะเรียกว่า AttenrionDeficit Disorders (ADD)
ลักษณะของเด็กที่มีความบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์
-อุจจาระ ปัสสาวะรดเสื้อผ้า หรือที่นอน
-ยังติดขวดนม หรือตุ้กตา และของใช้ในวัยทารก
-ดูดน้ำ กัดเล็บ
-หงอยเหงาเศร้าซึม การหนีสังคม
-เรียกร้องความสนใจ
-อารมณ์หวั่นไหวง่ายตาอสิ่งเร้า
-ขี้อิจฉาริษยา
-ฝันกลางวัน
-พูดเพ้อเจ้อ
7.เด็กที่มีปัญหาทางการเรียนรู้ * เหมือนเด็กปกติทุกอย่างไม่บกพร่องเลย
-เรียกย่อๆว่า L.D (Learning Disability)
-เด็กที่มีปัญหาทางการเรียนรู้เฉพาะอย่าง
-เด็กที่มีปัญหาทางการใช้ภาษา หรือการพูด การเขียน
-ไม่นับรวมเด็กที่มีปัญหา เพียงเล็กน้อยทางการเรียน เด็กที่มีปัญหาเนื่องจากความพิการหรือความบกพร่องทางร่างกาย
ลักษณะของเด้กที่มีปัญหาทางการเรียนรู้
-มีปัญหาในทักษะคณิตศาสตร์
-ปฏิบัติตามคำสั่งไม่ได้
-มีปัญหาด้านการอ่านเขียน
-ไม่รู้จักซ้ายขวา
-ซุ่มซ่าม
-รับลูกบอลไม่ได้
-ติดกระดุมไม่ได้
-เอาแต่ใจตนเอง
8. เด็กออทิสติก ( Autistic) *รับมือยากมากรุนแรงสุดๆ
-หรือออทิซึ่ง ( Autism)
-เด็กที่มีความบกพร่องอย่างรุนแรงในการสื่อความหมาย พฤติกรรมสังคมและความสามารถทางสติปัญญาในการรับรู้
-เด็กออทิสติกแต่ละคยจะมีเอกลักษณ์ของตนเอง
-ติดตัวเล็กไปตลอดชีวิต
-- ทักษะทางภาษา ต่ำ
-- ทักษะทางสังคม ต่ำ
-- ทักษะการเคลื่อนไหว สูง
-- ทักษะการรับรู้เกี่ยวกับรูปทรง ขนาดพื้นที่ สูง
ลักษณะเด็กออทิสติก *โลกส่วนตัวสูงมาก
-อยู่ในโลกของตนเอง
-ไม่เข้าไปหาใครเพื่อให้ใครปลอบใจ
-ไม่เข้าไปเล่นในกลุ่มเพื่อน
-ต่อต้าน หรือแสดงกิริยา อารมณ์รุนแรงและไร้เหตุผล
-มีท่าทางเหมือนคนหูหนวก
-ใช้วิธีการสัมผัสและเรียนรู้สิ่งต่างๆด้วยวิธีที่ต่างจากคนทั่วไป
9.เด็กพิการซ้อน
-เด็กที่มีความบกพร่องที่มากกว่าหนึ่งอย่างเป็นเหตุให้เกิดปัญหาขัดข้องในการเรียนรู้อย่างมาก
-เด็กปัญญาอ่อนที่สูญเสียการได้ยิน
-เด็กปัญญาอ่อนที่ตาบอด
-เด็กที่ทั้งหูหนวกและตาบอด
** แล้วอาจารย์ก็ได้ให้ดู VDO ห้องเรียนแรกของเด็กพิเศษพร้อมสรุปเป็นมายแม็ปส่งในคาบ
-อุจจาระ ปัสสาวะรดเสื้อผ้า หรือที่นอน
-ยังติดขวดนม หรือตุ้กตา และของใช้ในวัยทารก
-ดูดน้ำ กัดเล็บ
-หงอยเหงาเศร้าซึม การหนีสังคม
-เรียกร้องความสนใจ
-อารมณ์หวั่นไหวง่ายตาอสิ่งเร้า
-ขี้อิจฉาริษยา
-ฝันกลางวัน
-พูดเพ้อเจ้อ
7.เด็กที่มีปัญหาทางการเรียนรู้ * เหมือนเด็กปกติทุกอย่างไม่บกพร่องเลย
-เรียกย่อๆว่า L.D (Learning Disability)
-เด็กที่มีปัญหาทางการเรียนรู้เฉพาะอย่าง
-เด็กที่มีปัญหาทางการใช้ภาษา หรือการพูด การเขียน
-ไม่นับรวมเด็กที่มีปัญหา เพียงเล็กน้อยทางการเรียน เด็กที่มีปัญหาเนื่องจากความพิการหรือความบกพร่องทางร่างกาย
ลักษณะของเด้กที่มีปัญหาทางการเรียนรู้
-มีปัญหาในทักษะคณิตศาสตร์
-ปฏิบัติตามคำสั่งไม่ได้
-มีปัญหาด้านการอ่านเขียน
-ไม่รู้จักซ้ายขวา
-ซุ่มซ่าม
-รับลูกบอลไม่ได้
-ติดกระดุมไม่ได้
-เอาแต่ใจตนเอง
8. เด็กออทิสติก ( Autistic) *รับมือยากมากรุนแรงสุดๆ
-หรือออทิซึ่ง ( Autism)
-เด็กที่มีความบกพร่องอย่างรุนแรงในการสื่อความหมาย พฤติกรรมสังคมและความสามารถทางสติปัญญาในการรับรู้
-เด็กออทิสติกแต่ละคยจะมีเอกลักษณ์ของตนเอง
-ติดตัวเล็กไปตลอดชีวิต
-- ทักษะทางภาษา ต่ำ
-- ทักษะทางสังคม ต่ำ
-- ทักษะการเคลื่อนไหว สูง
-- ทักษะการรับรู้เกี่ยวกับรูปทรง ขนาดพื้นที่ สูง
ลักษณะเด็กออทิสติก *โลกส่วนตัวสูงมาก
-อยู่ในโลกของตนเอง
-ไม่เข้าไปหาใครเพื่อให้ใครปลอบใจ
-ไม่เข้าไปเล่นในกลุ่มเพื่อน
-ต่อต้าน หรือแสดงกิริยา อารมณ์รุนแรงและไร้เหตุผล
-มีท่าทางเหมือนคนหูหนวก
-ใช้วิธีการสัมผัสและเรียนรู้สิ่งต่างๆด้วยวิธีที่ต่างจากคนทั่วไป
9.เด็กพิการซ้อน
-เด็กที่มีความบกพร่องที่มากกว่าหนึ่งอย่างเป็นเหตุให้เกิดปัญหาขัดข้องในการเรียนรู้อย่างมาก
-เด็กปัญญาอ่อนที่สูญเสียการได้ยิน
-เด็กปัญญาอ่อนที่ตาบอด
-เด็กที่ทั้งหูหนวกและตาบอด
** แล้วอาจารย์ก็ได้ให้ดู VDO ห้องเรียนแรกของเด็กพิเศษพร้อมสรุปเป็นมายแม็ปส่งในคาบ